การปฏิเสธเมื่อเพื่อนร่วมงานยืมเงิน

เทคนิคการปฏิเสธ เมื่อเพื่อนร่วมงานมาขอยืมเงินของเรา แบบไม่ให้เสียเพื่อน

สวัสดีครับหลานๆ ที่น่ารักของลุงทุกคน! วันนี้ “ลุงชูพง” กลับมาอีกแล้วจ้ะ มาพร้อมกับเรื่องราวคลาสสิกที่เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอจนปวดขมับ นั่นก็คือ… เรื่อง “เพื่อนร่วมงานขอยืมเงิน” นั่นเอง! โอ้โห… แค่ได้ยินหัวข้อก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันแล้วใช่ไหมล่ะ? ใจหนึ่งก็สงสารเพื่อน อีกใจก็ห่วงเงินในกระเป๋าตัวเองที่นับวันยิ่งแฟบลงๆ วันนี้ลุงเลยจะมาแชร์เทคนิคดีๆ ในการปฏิเสธแบบนุ่มนวล แต่หนักแน่น ไม่ต้องเสียเพื่อน แถมยังช่วยให้เขาได้ฉุกคิดอีกด้วยนะเออ!

 

ทำความเข้าใจความเสี่ยง: ก่อนจะให้ยืม ต้องคิดให้รอบคอบ

 

ก่อนที่เราจะไปถึงวิธีปฏิเสธ ลุงอยากให้หลานๆ เข้าใจตรงกันก่อนว่า การยืมเงินคือสัญญาณของปัญหาทางการเงิน คนที่บริหารเงินได้ดีส่วนใหญ่มักจะไม่ต้องหยิบยืมใคร ดังนั้น การที่เพื่อนมาขอความช่วยเหลือ แสดงว่าเขากำลังมีปัญหาอยู่แล้ว และการที่เราให้ยืม ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุนะจ๊ะ มันเหมือนกับการเอาถังน้ำดีๆ ของเราไปช่วยเติมในถังที่มันรั่ว สุดท้ายน้ำเราก็หมด แถมถังเขาก็ยังไม่เต็มอยู่ดี ที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหาของเขาอาจกลายเป็นปัญหาของเราได้ในทันที หากเขาไม่มีเงินมาคืนตามสัญญา ความสัมพันธ์ในที่ทำงานที่เคยดีๆ อาจจะมองหน้ากันไม่ติดไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้น การปฏิเสธไม่ใช่การใจร้าย แต่คือการป้องกันปัญหาที่จะตามมาทั้งกับตัวเราและกับความสัมพันธ์นะจ๊ะ

 

เทคนิคปฏิเสธแบบ “บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น” สไตล์ลุงชูพง

 

เอาล่ะ! มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เมื่อเพื่อนเดินหน้าเศร้าเข้ามาพร้อมกับคำว่า “ขอยืมเงินหน่อยสิ” ลุงแนะนำให้หลานๆ ตั้งสติ แล้วลองใช้เทคนิคเหล่านี้ดูนะ

  1. อ้างอิงภาระส่วนตัว (The Honest but Firm Approach)

วิธีนี้คือการบอกความจริงในส่วนของเราอย่างตรงไปตรงมา แต่ใช้คำพูดที่แสดงความเห็นใจ มันทำให้เพื่อนรู้ว่าเราไม่ได้ปฏิเสธเพราะไม่ชอบหน้าเขา แต่เพราะเราก็มีภาระที่หนักอึ้งไม่แพ้กัน

  • เริ่มต้นด้วยความเข้าใจ: “เราเข้าใจเธอนะ รู้ว่าต้องลำบากจริงๆ ถึงมาเอ่ยปาก”
  • บอกเล่าภาระของเรา: “แต่ต้องขอโทษจริงๆ นะเพื่อน ช่วงนี้เราก็หมุนเงินตัวเป็นเกลียวเหมือนกัน”
  • “ลุงเองก็ได้เงินมาแบบต้องประหยัดสุดๆ และยังมีภาระที่ต้องดูแลทางบ้านอีกหลายอย่าง เลยไม่สามารถให้ใครยืมได้เลยจริงๆ”
  • “พอดีมีภาระต้องส่งให้ญาติๆ เหมือนกัน ทั้งค่าเทอมลูก ค่าเรียนพิเศษ มันเป็นรายจ่ายที่ตายตัวทุกเดือนเลย”
  • “อีกอย่างคือเรายังมีหนี้สินและรายจ่ายอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบอยู่เหมือนกัน”
  1. อ้างอิงเป้าหมายในอนาคต (The Future Goal Approach)

การบอกว่าเรามีแผนการใช้เงินที่ชัดเจน เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนมีวินัยทางการเงิน และเงินทุกบาททุกสตางค์ได้ถูกจัดสรรไว้หมดแล้ว

  • แสดงความมุ่งมั่น: “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะเพื่อน พอดีเรามีเป้าหมายชีวิตที่วางแผนไว้แล้ว”
  • อธิบายแผนคร่าวๆ: “ตอนนี้กำลังพยายามเก็บเงินก้อนหนึ่งเพื่อเอาไปลงทุนทำตามฝันอยู่ ซึ่งเป็นเงินที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เอาออกมาใช้เรื่องอื่นเลยจนกว่าจะถึงเวลาจริงๆ”
  1. อ้างอิงกฎเหล็กส่วนตัว (The Iron Rule Approach)

วิธีนี้ทรงพลังมาก เพราะมันไม่ใช่การตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ แต่เป็น “กฎ” ที่เราตั้งไว้กับตัวเอง ทำให้เพื่อนเข้าใจได้ง่ายว่ามันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถยืดหยุ่นได้จริงๆ

  • บอกถึงเงินก้อนพิเศษ: “เรามีเงินส่วนหนึ่งที่กันไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉินของครอบครัว”
  • ประกาศกฎเหล็กของเรา: “ซึ่งเรามีกฎเหล็กกับตัวเองเลยว่าจะไม่นำเงินก้อนนี้ออกมาใช้เด็ดขาด ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายของคนในครอบครัวจริงๆ มันเป็นเงินส่วนที่ไม่สามารถให้คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวนำออกไปได้เลย” 6

 

ขั้นกว่าของการปฏิเสธ: ชวนเพื่อนมองปัญหาให้ทะลุปรุโปร่ง

 

หลังจากที่เราปฏิเสธไปแล้ว สิ่งสำคัญคือการแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจ เพื่อรักษามิตรภาพที่ดีเอาไว้ ลองเปลี่ยนจากการให้ “ยืมเงิน” เป็นการให้ “สติและแนวทาง” แทน

  • ยื่นข้อเสนอช่วยเหลือในทางอื่น: “เราให้ยืมเงินไม่ได้จริงๆ แต่ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ อยากให้ช่วยคิดหาทางออก หรืออยากให้ช่วยดูแผนการเงิน เรายินดีช่วยเต็มที่เลยนะ”
  • ชวนให้เพื่อนทบทวน: ลองพูดคุยกับเขาดีๆ ว่า “ลองค่อยๆ คิดดูนะว่าทำไมเราถึงต้องยืมเงินคนอื่น” 7และ “มีวิธีไหนบ้างที่เราจะสามารถหาเงินเพิ่มหรือลดรายจ่ายได้ด้วยตัวเอง” 8 การกระตุ้นให้เขาหาต้นตอของปัญหาและหาทางแก้ไขด้วยตัวเอง คือการช่วยเหลือที่ยั่งยืนที่สุด
  • ยกตัวอย่างที่ดี: “ลุงเองก็ไม่เคยยืมเงินใครเลยนะ ยกเว้นเวลาไปทานข้าวแล้วลืมพกเงินสดมา ก็อาจจะติดเพื่อนไว้ก่อน แต่ก็จะรีบคืนภายในวันนั้นทันทีเลย” 9 การมีวินัยเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้เราไม่ต้องไปพึ่งพาใคร

สุดท้ายนี้ ลุงอยากจะบอกหลานๆ ว่า การรักษาสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัว แต่เป็นความรับผิดชอบพื้นฐานที่เราทุกคนต้องมี การปฏิเสธอย่างมีเหตุผลและจริงใจ จะไม่ทำให้มิตรภาพพังทลายลงหรอกนะ ตรงกันข้าม เพื่อนที่ดีจะเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเรา จำไว้นะจ๊ะ… ช่วยเพื่อนได้ แต่ต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนนะ!

ด้วยความหวังดีจากลุงชูพงคนเดิมจ้ะ!

#ลุงชูพง #การเงิน #เพื่อนร่วมงาน #ปฏิเสธยังไงไม่ให้เสียเพื่อน #ชีวิตมนุษย์เงินเดือน