เศรษฐกิจพอเพียง

การนำ หลักเศรษฐกิจพอเพียง นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างได้ผลที่ดี

เมื่อลุงชูพงเล่าเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ให้หลานๆ ฟัง

 

เอาล่ะ! หลานๆ จ๋า… วันนี้ลุงมีเรื่องมาเล่าให้ฟังเรื่องนึง มันไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออะไรหรอก แต่มันคือเรื่องที่จะทำให้ชีวิตของหลานๆ สบายขึ้น มีความสุขขึ้น แล้วก็ไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจเรื่องเงินๆ ทองๆ อีกต่อไป

 

เรื่องที่ว่านี้ก็คือ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” นั่นแหละ อย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อ! มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย มันเหมือนเป็นคาถา 3 คำ ที่ลุงใช้มาตลอดชีวิต แล้วมันเวิร์กมาก!

 

  1. พอประมาณ (พอดีๆ ไม่ต้องเกินเบอร์)

คำนี้มันง่ายมากเลยนะหลานๆ มันคือการใช้ชีวิตให้พอดี พอดีในที่นี้คือพอดีกับตัวเราเอง ไม่ใช่ไปเทียบกับเพื่อนข้างบ้านที่เขาเพิ่งถอยรถใหม่ หรือไปอยากได้กระเป๋าที่แพงกว่าเงินเดือน 3 เดือนของตัวเอง 5555+

 

อย่างเรื่องการใช้เงินนี่ชัดสุดเลยนะ ลุงไม่ได้ห้ามให้หลานซื้อของที่ชอบ แต่ก่อนจะซื้อก็ลองถามตัวเองหน่อยว่า “จำเป็นมั้ย?”, “มีเงินซื้อจริงดิ๊?”, “ถ้าซื้อแล้วจะกินมาม่าไปกี่วัน?”  ถ้าคิดแล้วว่าโอเค…ก็จัดไป! แต่ถ้าต้องเป็นหนี้เป็นสินเพราะอยากได้อะไรที่เกินตัว ก็พักก่อนดีกว่า

 

  1. มีเหตุผล (ใช้สติมากกว่าอารมณ์)

อันนี้ง่ายกว่าเดิมอีก! มันคือการใช้ชีวิตโดยมีเหตุมีผล ไม่ทำอะไรตามอารมณ์ชั่ววูบ เหมือนเวลาที่หลานๆ จะซื้อของนั่นแหละ

 

  • อยากได้เพราะเห็นคนอื่นมี? อันนี้ไม่เรียกว่ามีเหตุผล
  • อยากลงทุนตามกระแส? ไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อน? อันนี้ก็ไม่ดี!

ลุงว่านะ…เวลาจะทำอะไรก็แล้วแต่ ให้ลองคิดให้ดีๆ ก่อน มันจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ถูกต้อง แล้วก็ไม่เสียใจทีหลัง

 

  1. มีภูมิคุ้มกันที่ดี (เตรียมพร้อมเสมอ)

ฟังดูเหมือนยาก แต่ก็ไม่มีอะไรเลย มันคือการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิด อย่างเช่น การออมเงินนี่แหละ ลุงว่าหลานๆ ควรมีเงินเก็บไว้สักก้อน เผื่อวันไหนเจ็บป่วยขึ้นมา หรือวันไหนงานไม่เป็นอย่างที่คิด จะได้ไม่เดือดร้อน

 

นอกจากเรื่องเงินแล้วก็มีเรื่องอื่นอีกนะ อย่างการพัฒนาตัวเอง ลองเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ มันจะช่วยให้เราพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงในชีวิต และอีกอย่างที่สำคัญสุดๆ คือดูแลสุขภาพตัวเอง ร่างกายแข็งแรงก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วนะหลานๆ!

 

สุดท้ายนี้ ลุงอยากจะบอกว่า…ไม่ต้องเริ่มจากเรื่องใหญ่โตอะไรเลยนะ แค่ลองทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายง่ายๆ หรือใช้จ่ายอย่างประหยัดขึ้นอีกนิด แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขและมั่นคงได้แล้ว

 

แล้วหลานๆ ล่ะ…วันนี้เริ่มทำอะไรให้พอเพียงแล้วหรือยัง? ลองมาคุยกับลุงได้นะ!

 

เคยมี สาว Office ผู้ทำงานหนักมา 5 ปีคนหนึ่ง เคยขอคำปรึกษาลุงว่า

สมมุติว่า เราเงินเดือน 30,000 บาท แต่เราอยากได้มากกว่า โดยเราตั้งเป้าหมาย ว่าเราอยากได้ 300,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ ไม่เดือดร้อนมาก สามารถลงทุนต่อยอดได้ และซื้อบ้าน ผ่อนบ้านได้ การอยากได้เงินมากกว่าเดิมแบบนี้ ถือว่าผิดหลักการ เศรษฐกิจพอเพียงไหม และ ใช้แนวคิด หรือกระบวนการใด ที่เหมาะสม ที่สามารถทำให้เราบรรลุความประสงค์นี้ อย่างไม่ผิดหลักการของเศษรฐกิจพอเพียง ขอคำแนะนำจากลุงชูพงด้วยค่ะ

เอาล่ะหลาน! คำถามนี้ดีมากเลยนะ ลุงชูพงขอตอบเลยว่า การที่หลานอยากได้รายได้เพิ่มขึ้นจาก 30,000 บาท เป็น 300,000 บาท

 

ไม่ได้ผิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเลยสักนิดเดียว 

 

หลักเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้สอนให้เราหยุดพัฒนาตัวเอง หรือให้ใช้ชีวิตแบบอดๆ อยากๆ แต่หลักการนี้เน้นที่ความสมเหตุสมผลและความพอดี ถ้าหลานมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นและมีความสามารถที่จะไปถึงได้ นั่นเป็นสิ่งที่ดีนะ ที่สำคัญคือการไปให้ถึงเป้าหมายนั้นด้วยกระบวนการที่ถูกต้องและเป็นเหตุเป็นผล 

 

ลุงมีแนวทางมาแนะนำให้หลาน ลองเอาไปปรับใช้ดูนะ:

  1. ตั้งเป้าหมายอย่างมีเหตุผล (Reasonableness)

 

  • วิเคราะห์ตัวเอง: เป้าหมาย 300,000 บาทต่อเดือนอาจจะดูไกลตัวไปหน่อย ลองตั้งเป้าหมายย่อยๆ ก่อนดีกว่าไหม เช่น เพิ่มรายได้อีก 10,000 บาทใน 6 เดือนข้างหน้า หรือเพิ่มอีก 50,000 บาทใน 1 ปี  การตั้งเป้าหมายที่ค่อยเป็นค่อยไปจะทำให้เรามีกำลังใจและไม่ท้อแท้ไปเสียก่อน
  • ศึกษาและวางแผน: การจะเพิ่มรายได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หลานต้องศึกษาให้ดีว่ามีช่องทางไหนบ้างที่จะสร้างรายได้เพิ่ม เช่น การทำอาชีพเสริม, การลงทุน หรือการพัฒนาทักษะเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น อย่าเพิ่งลงทุนตามกระแสเพราะเห็นคนอื่นรวยนะ แต่ให้ใช้เหตุผลและข้อมูลเป็นหลัก
  1. พัฒนาภูมิคุ้มกันที่ดี (Self-Immunity)

 

  • อัปสกิลให้ตัวเอง: การจะเพิ่มรายได้ เราก็ต้องเพิ่มความสามารถให้ตัวเองด้วย 16หมั่นเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ตลาดต้องการ หรือพัฒนาความรู้เดิมที่มีอยู่ให้เชี่ยวชาญขึ้น การเรียนรู้จะช่วยให้เรามีโอกาสในการทำงานมากขึ้น และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดี
  • ออมเงินเพื่อลงทุน: เป้าหมายรายได้ 300,000 บาท อาจจะมาจากหลายช่องทาง ดังนั้นหลานควรเริ่มออมเงินเพื่อเป็นทุนสำหรับการลงทุนหรือเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง การมีเงินทุนสำรองจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
  1. ใช้จ่ายอย่างพอประมาณ (Sufficiency) 

  • ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย: แม้รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ถ้ายังใช้จ่ายแบบไม่คิด ชีวิตก็จะกลับมาเดือดร้อนเหมือนเดิม ลองทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายดูนะ จะได้รู้ว่าเงินหายไปไหนบ้าง
  • ใช้จ่ายตามความจำเป็น: เมื่อมีเงินมากขึ้น หลานอาจจะอยากใช้จ่ายมากขึ้น แต่ให้ลองคิดถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจซื้ออะไร 

สรุปง่ายๆ นะหลาน การอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องผิดเลย แต่เราต้องไปให้ถึงเป้าหมายด้วย

 

ความมีเหตุผล และ การเตรียมพร้อม ลุงชูพงขอเป็นกำลังใจให้หลานนะ!